ทฤษฎีการจัดการ


Dr. William  Edwards  Deming 

หลักการ/แนวคิด/ประวัติความเป็นมา
            Dr. William Edwards Deming ได้พัฒนาวงจร PDCA ขึ้นมาจากแนวคิดของ Dr. W.A. Shewhart ในระยะแรกรู้จัก วงจร PDCAในนาม Shewhart Cycle จากนั้น Dr. William Edwards Deming ได้นำพัฒนาปรับใช้ในการควบคุมคุณภาพในวงการอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น จึงมีชื่อเรียกว่า Deming Cycle (สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น2552)

            Dr. William  Edwards  Deming มีความเชื่อว่า คุณภาพสามารถปรับปรุงได้ จึงเป็นแนวคิด ของการพัฒนาคุณภาพงานขั้นพื้นฐาน เป็นการกำหนดขั้นตอนการทำงานเพื่อสร้างระบบการผลิตให้สินค้ามีคุณภาพดี การให้การบริการดี หรือทำให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างมีระบบโดยใช้ได้กับทุกๆสาขา วิชาชีพแม้กระทั่งการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์

เครื่องมือนี้คืออะไร/มีองค์ประกอบอะไร
PDCA หรือ Deming Cycle คือ วงจรการบริหารงานคุณภาพ ประกอบด้วย
            P (Plan) คือ   ขั้นตอนการวางแผน เพื่อเลือกปัญหา ตั้งเป้าหมาย การแก้ปัญหา และวางแผนแก้ปัญหา
            D (Do)   คือ   ขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามแนวทางที่วางไว้
            C (Check)   คือ   ขั้นตอนการตรวจสอบ และเปรียบเทียบผล
            A (Action)   คือ    การกำหนดเป็นมาตรฐานและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น

ข้อดี ของ PDCA
·       การนำวงจร PDCA ไปใช้ ทำให้ผู้ปฏิบัติมีการวางแผน ป้องกันปัญหาที่ไม่ควรเกิด ช่วยลดความสับสนในการทำงาน ลดการใช้ทรัพยากรมากหรือน้อยเกินความพอดี ลดความสูญเสียในรูปแบบต่างๆ
·       การทำงานที่มีการตรวจสอบเป็นระยะ ทำให้การปฏิบัติงานมีความรัดกุมขึ้น และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วก่อนจะลุกลาม
·       การตรวจสอบที่นาไปสู่การแก้ไขปรับปรุง ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วไม่เกิดซ้ำ หรือลดความรุนแรงของปัญหา ถือเป็นการนาความผิดพลาดมาใช้ให้เกิดประโยชน์
·       การใช้ PDCA เพื่อการแก้ปัญหา ด้วยการตรวจสอบว่ามีอะไรบ้างที่เป็นปัญหา เมื่อหาปัญหาได้ ก็นำมาวางแผนเพื่อดำเนินการตามวงจร PDCA ต่อไป

การนำวงจร PDCA ไปใช้อย่างสัมฤทธิผล
·       Plan : ผู้บริหารกำหนดแผนงานร่วมกับพนักงานทุกระดับ
·       Do : พนักงานนำไปปฏิบัติตามแผนงานโดยได้รับความช่วยเหลือจากหัวหน้างาน
·       Check : ตรวจสอบเพื่อค้นหาปัญหาข้างเคียงและวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่สุด
·       Act : กำหนดวิธีแก้ไขเป็นมาตรฐานเพื่อให้พนักงานนำไปปฏิบัติได้สะดวก

ความคิดเห็น

  1. Luther Gulick
    POSDCoRB ใช้เพื่อสร้างกลไก และ โครงสร้างให้กับองค์กร จัดเตรียมบุคลากรที่มีความชำนาญต่างกันให้อยู่ในแผนกที่เหมาะสมกับองค์กร บุคลากรรู้หน้าที่ และ ผู้บริหารสามารถบริหาร และ สั่งการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วางกรอบการทำงานให้องค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการบริหาร ส่งเสริมการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกันภายในองค์กร

    ตอบลบ
  2. Frederic W.Taylor
    การจัดการอย่างมีหลักเกณฑ์/การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management) มีหลักการที่สำคัญคือ
    1. ต้องสร้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์ โดยใช้หลัก Time and Motion Study แล้วกำหนดเป็น One best Way เพื่อให้เกิดวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
    2. มีการเลือกคนให้เหมาะสม
    3. กระบวนการพัฒนาคนสร้าง Friendly Cooperation ให้เกิดขึ้น

    ตอบลบ
  3. Henry L. Gantt
    การเขียน Gantt chart จะต้องกำหนดเวลาของแต่ละโครงงาน ซึ่งจะแสดงภาพรวมของโครงการนั้น ๆทำให้เข้าใจภาพรวมของระบบ ได้ง่ายบุคลากรที่เกี่ยวข้องสามารถทำการตรวจสอบความก้าวหน้า ในการ วิเคราะห์ระบบการทำงาน ได้อย่างเข้าใจและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ
  4. Frank Bunker and Lillian Moller Gilbreth
    Frank Gilbreth เป็ นวิศวกร และLillian Gilbreth เป็นนักจิตวิทยา ผู้เสนอการศึกษา เรื่องเวลาและการเคลื่อนที่ ในยุคสมัยที่เครื่องจักรเข้ามามีอิทธิพลต่อการท างาน ในองค์กรต่างๆ ทำให้เกิดแนวความคิดเพื่อเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมายขององค์กรในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน การเพิ่มผลผลิต การสร้าง ความพึงพอใจในงาน มุ่งค้นหาวิธีที่จะคัดสรร และคัดเลือกคนที่มีความ สามารถมากที่สุดเข้ามาทำงาน การฝึกอบรมพนักงาน การตรวจสอบการทำงาน และ การประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ การใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึง การพิจารณาวิธีการ ต่างๆ ที่ทำให้คุณภาพชีวิตในการทำงานให้ดีขึ้นตลอดจน สภาพแวดล้อมต้องเหมาะสมกับบรรยากาศเพื่อเอื้ออำนวยต่อการทำงาน

    ตอบลบ
  5. Max Weber
    จะทำหน้าที่เป็นกลไกการบริหารของกลุ่มชน โดยผู้นำจะใช้อำนาจที่มีอยู่ตามกฎหมายปกครอง บังคับ บัญชาโดยผ่าน ระบบราชการ องค์การแบบระบบราชการตามแนวคิดของ Max Weberจะประกอบด้วยโครงสร้างพึันฐานที่สำคัญ 7 ประการดังนี้
    1. หลักลำดับขั้น (hierachy)
    2. หลักความรับผิดชอบ (responsibility)
    3. หลักแห่งความสมเหตุสมผล(rationality)
    4.การมุ่งสู่ผลสำเร็จ(achievement orientation)
    5. หลักการทำให้เกิดความแตกต่างหรือความชำนาญเฉพาะด้าน (differentation, specialization)
    6. หลักระเบียบวินัย (discipline)
    7.ความเป็นวิชาชีพ (professionalization)

    ตอบลบ
  6. Henri Fayol
    เฮนรี่ ฟาโยล (Henri Fayol) ได้สรุปเป็นทฤษฎีว่า หากวันหนึ่งคุณต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องใช้คนจำนวนมากๆ ในการทำงานแล้วละก็หัวใจของการบริหารจัดการเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมายนั้น มีองค์ประกอบด้วยกัน 5 ปัจจัย เรียกว่า POCCC มีดังนี้
    1. การวางแผน (Planning)
    2. การจัดองค์การ (Organizing)
    3. การบังคับบัญชาหรือการสั่งการ (Commanding)
    4. การประสานงาน (Coordinating)
    5. การควบคุม (Controlling)

    ตอบลบ
  7. Elton Mayo
    เขาได้ชื่อว่าเป็น “บิดาของการจัดการแบบมนุษย์สัมพันธ์ (Human relations)” จากการการศึกษาที่เรียกว่า Hawthorn Study ที่บริษัท Western Electric Company ในชิคาโก เมื่อ ปี ค.ศ.1927-1932 การศึกษาดังกล่าวนี้ เริ่มต้นด้วยการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง สภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical environment) กับประสิทธิภาพ ในการทำงาน (Productivity) โดยเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ คือการศึกษา ทดลอง 3 หลักใหญ่ๆ ดังนี้:สภาพของห้องทำงาน (Room Studies) :การสัมภาษณ์ (Interview Studies) :การสังเกต(Observation Studies)

    ตอบลบ
  8. Abraham Maslow
    แนวความคิดของมาสโลว์ คือความต้องการของมนุษย์มีมากมายหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งต้องได้รับความพึงพอใจจากความต้องการพื้นฐานหรือต่ำสุดเสียก่อนจึงจะผ่านขึ้นไปยังความต้องการขั้นสูงตามลำดับ
    1. ความต้องการทางร่างกาย (physiological needs)
    2. ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง (security or safety needs)
    3. ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ (belongingness and love needs)
    4. ความต้องการการยกย่อง (esteem needs)
    5. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต (self-actualization)

    ตอบลบ
  9. Frederick Herzberg
    ศึกษาเกี่ยวกับปัจจัย ที่มีผลต่อการทำงานของบุคคลกรในองค์ โดยศึกษา ถึงทรรศนะคติของบุคคลที่มีต่อการทำงานเพื่อหาทางที่จะลดความไม่พอในในการทำงาน เพื่อที่ทำให้คนงานมีความรู้สึกที่ดีในการที่จะ พยายามเสริมสร้างผลผลิตของงานให้มากขึ้น พบว่าปัจจัยที่มีผลกระทบต่องานออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
    1. ปัจจัยจูงใจ (Motivation Factor)
    2. ปัจจัยค้ำจุน (Maintenance Factor)

    ตอบลบ
  10. Douglas McGregor
    ผู้คิดค้นทฤษฎี X และทฤษฎี Yได้ศึกษาวิธีการที่ผู้บริหารมองตัวเองสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ทัศนะนี้ต้องการความคิดในการรับรู้ธรรมชาติของมนุษย์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการทัศนะทางสังคม และศึกษาถึงแนวทางในการบริหารบุคคลภายในองค์กร โดยเสนอเรื่องการจูงใจ แมคเกรเกอร์ ได้เรียกร้องให้ผู้บริหารเปลี่ยนแปลงมุมมองมนุษย์จากมุมมองตามทฤษฎี X ไปเป็นมุมมองตามทฤษฎี Y

    ตอบลบ
  11. Michael hamburg
    การรื้อปรับระบบ (Re-engineering) James Champyและ Michael Hammer ท่านทั้ง 2 ได้เขียนหนังสือที่ โด่งดังมากในยุคนี้ชื่อ “Reengineering the Corporation” (1993) เสนอแนวคิดว่า “ถ้าองค์การจะอยู่รอดและสามารถแข่งขันได้ในอนาคต ผู้บริหารจะต้องตัดสินใจ
    1.เปลี่ยนแปลงองค์การอย่างถอนรากถอนโคน (Radical Change)
    2.โดยปรับการดำเนินงานจากการปฏิบัติงานตามหน้าที่เป็นการ บริหารงานตามกระบวนการธุรกิจ(Business Process Management)

    ตอบลบ
  12. Peter f.drucker
    เป็นนักคิดที่บุกเบิกแนวคิดด้านการบริหารจัดการขององค์กรธุรกิจสมัยใหม่ แต่ดรักเกอร์ มีแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการองค์กรที่แตกต่างอย่างมาก จากนักคิดด้านการบริหารรุ่นใหม่ๆ ที่การ น าเสนอแนวคิดการบริหารธุรกิจ จะมีหลักวิชาการรองรับและมีวิธีคิดที่เป็นระบบแบบแผน แต่ แนวคิดที่เป็นจุดเด่นของดรักเกอร์ คือความพยายามที่จะเข้าใจความซับซ้อนต่างๆ ของสังคม และ พยายามถอดสรุปสิ่งที่เข้าใจออกมาเป็นแนวคิดที่ได้มาจากประสบการณ์ด้านการปฏิบัติ

    ตอบลบ
  13. Oliver Sheldon
    หลักการและแนวคิด
    1. การบริหาร เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดนโยบาย การวางแผน และประสานงาน ในหน้าที่ต่าง ๆ
    2. การจัดการ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำนโยบายและแผน มาดำเนินการเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดขึ้นไว้หน้าที่ในการจัดองค์การ
    3. เป็นกระบวนการเพื่อประสานงานระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่มบุคคลในองค์กร

    ตอบลบ
  14. Harrington Emerson
    มีแนวคิดคือได้นำเอาวิธีการจัดการแบบวิทยาศาสตร์มาบริหารงานในองค์กร การบริหารแบบวิทยาศาสตร์คือ จะต้องมีการค้นพบ และทดลองเป็นอย่างดีว่า วิธีการนั้นได้ผลจริง เมื่อประเมินผลแล้วสามารถบอกได้ว่า อะไรที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมากำหนดเป็นหลักการบริหาร ใช้เพื่อปรับปรุงกับการจัดการกับประสิทธิภาพของคน โครงสร้าง และเป้าหมายขององค์กร เพื่อผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น